Wednesday, April 18, 2012

เจ้าชายผู้แหวกธรรมเนียมราชวงศ์

(เดลีมาร์เก็ต พุธ 18 เม.ย.55)

การเสด็จเยือนประเทศต่างๆ โดยสมาชิกราชวงศ์อังกฤษในปีนี้ เพื่อเฉลิมฉลองวาระที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สอง ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนทั่วโลก โดยเฉพาะทริปของเจ้าชายแฮร์รี่ พระโอรสองค์รองในเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกูฎราชกุมารอังกฤษ ซึ่งเสด็จเยือนแคริบเบียนและอเมริกากลางเมื่อเดือนที่แล้ว

การเสด็จเยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการโดยลำพังครั้งแรกของเจ้าชายแฮร์รี่ ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจต่างๆ อย่างไม่เคอะเขิน และทรงเป็นกันเองกับผู้ที่มีโอกาสเข้าเฝ้า

อย่างไรก็ตาม อาร์เธอร์ เอ็ดเวิร์ดส์ ช่างภาพที่ติดตามทำข่าวราชวงศ์อังกฤษมานาน ให้ความเห็นว่า เจ้าชายแฮร์รี่ ทรงฉีกกฎเกณฑ์ของราชวงศ์ในการเดินทางครั้งนี้ แม้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องจัดการวางแผนพระกรณียกิจล่วงหน้านานนับเดือน และแจ้งหมายกำหนดการให้สื่อมวลชนรับทราบแล้ว แต่ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าเจ้าชายจะทรงทำอะไรบ้างเมื่อไปถึงสถานที่นั้นๆ

ในวันที่เจ้าชายแฮร์รี่เสด็จไปพบกับ อูเซน โบลต์ นักวิ่งแชมป์โลกชาวจาเมกา ที่สนามฝึกซ้อมในกรุงคิงสตัน สื่อมวลชนได้รับแจ้งว่า โบลต์ จะถวายคำแนะนำการวิ่ง ทำให้เกิดคำถามว่าเจ้าชายจะทรงวิ่งแข่งกับ โบลต์ หรือไม่ แต่คณะผู้เตรียมการก็ไม่สามารถตอบได้

เมื่อเจ้าชายแฮร์รี่เสด็จถึงสนามซ้อม ทรงพูดคุยกับ โบลต์ อย่างไม่ถือพระองค์ และในทันทีทันใด เจ้าชายก็ฉวยโอกาสทดสอบเทคนิคเบี่ยงเบนความสนใจที่ทรงเรียนรู้จาก โบลต์ มาหมาดๆ ทรงวิ่งนำหน้าไปจนถึงเส้นชัย กลายเป็นภาพขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์แทบทุกฉบับในอังกฤษ และอีกหลายประเทศทั่วโลก

หลังจากทรงวิ่งแข่งกับ โบลต์ เจ้าชายแฮร์รี่ เสด็จไปพบกับ ปอร์เตีย ซิมป์สัน มิลเลอร์ นายกรัฐมนตรีจาเมกา ซึ่งสื่อมวลชนคาดหมายว่าจะได้เห็นภาพการจับมือทักทาย แต่กลับกลายเป็นการสวมกอดอย่างอบอุ่น

จากนั้น เมื่อเจ้าชายแฮร์รี่เสด็จไปยังโรงเรียนในตัวเมือง สื่อมวลชนก็ได้ภาพเด็ดอีกเมื่อเจ้าชายทรงโชว์ทักษะการเต้นตามเพลงของ บ็อบ มาร์เลย์ และยังทรงเลียนแบบนักร้องระดับตำนานชาวจาเมกา ในงานเลี้ยงพระกระยาหารค่ำที่รัฐบาลจาเมกาเป็นเจ้าภาพจัดถวาย

เอ็ดเวิร์ดส์ กล่าวว่า ขณะที่เจ้าชายแฮร์รี่ทรงปฏิบัติพระองค์ตามปกติต่อหน้าสื่อมวลชน แต่โดยแท้จริงแล้วทรงอดทนอย่างมาก เขาอ้างแหล่งข่าวอาวุโสว่า เจ้าชายทรงมีปัญหากับช่างภาพปาปารัซซี ที่รุกรานชีวิตส่วนพระองค์ และเป็นต้นเหตุทำให้ ไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ พระมารดา สิ้นพระชนม์ในอุบัติเหตุเมื่อปี 2540

ตามความเห็นของเอ็ดเวิร์ดส์ เจ้าชายแฮร์รี่ทรงทำให้พระกรณียกิจต่างๆ กลายเป็นเหตุการณ์สำคัญไปหมด ซึ่งทำให้พระองค์แตกต่างจากสมาชิกราชวงศ์พระองค์อื่นๆ โดยแหล่งข่าวเผยว่า เจ้าชายทรงไม่มียุทธศาสตร์ใดๆ ในการเสด็จเยือนครั้งนี้ แต่ทรงปฏิบัติพระองค์ไปตามสัญชาติญาณ

อย่างไรก็ตาม เจ้าชายแฮร์รี่ไม่ได้ทำตามพระทัยเพื่อความสนุกของพระองค์ ทรงยึดหน้าที่เป็นหลักตามที่ทรงเรียนรู้จากสมเด็จย่า และในระหว่างเสด็จเยือนประเทศต่างๆ ทรงเห็นว่านี่คือการสนองพระเดชพระคุณ และมีแต่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธเท่านั้น ที่จะทรงตัดสินว่าการเดินทางของเจ้าชายประสบความสำเร็จหรือไม่

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นระบุว่า สมเด็จพระราชินีนาถ และเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ทรงพอพระทัยและภาคภูมิพระทัยอย่างยิ่ง ต่อการปฏิบัติพระกรณียกิจของเจ้าชายแฮร์รี่ในครั้งนี้

แหล่งข่าวกล่าวว่า การเสด็จเยือนแคริบเบียนและอเมริกากลาง เป็นหลักไมล์สำคัญของเจ้าชายแฮร์รี่ เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่ประชาชนได้เห็นพระองค์อย่างเต็มที่ แทนที่จะเป็นรูปแอบถ่ายอย่างที่เคยเป็นมา

เจ้าชายแฮร์รี่ทรงเป็นคนหนุ่มที่มีความสามารถ และทรงทำได้ดีในการอ่านสถานการณ์ ทรงเต็มไปด้วยความมั่นพระทัย อีกทั้งยังทรงมีความฉลาดทางอารมณ์ ทำให้ปฏิบัติพระองค์อย่างเป็นธรรมชาติ ตั้งแต่การหยอกล้อ โบลต์ ไปจนถึงงานพิธีทางการ

ภาพที่ปรากฏต่อสาธารณชนเป็นสัญญาณแสดงว่า เจ้าชายแฮร์รี่ทรงเจริญพระชันษาอย่างแท้จริงแล้ว จากเจ้าชายวัยคะนองที่ใส่ชุดนาซีไปงานปาร์ตี้ และก่อเรื่องวุ่นวายอยู่เสมอๆ กลายเป็นเจ้าชายหนุ่มที่ทรงเอาจริงเอาจังแต่ก็สนุกสนานอยู่ในที ทรงเป็นหนึ่งในสีสันที่ทำให้ราชวงศ์อังกฤษกลับมาอยู่ในความสนใจของคนทั่วโลกอีกครั้ง

*เรื่องที่เกี่ยวข้อง*
เจ้าชายนักรบ
ฮีโร่แห่งสนามโปโล
เจ้าชายแฮร์รี่ย้ายกลับวังเคนซิงตัน

No comments: