ทริปแรกสุดแสนจะเริ่ดหรู มีรถมารับที่สนามบิน ได้พักอย่างดีที่มารีน่า เบย์ แซนด์ ห้องหับกว้างขวาง มองออกไปนอกหน้าต่างเจอวิวมารีน่า เบย์ สวยงาม ด้านหลังเป็นสวนยักษ์ การ์เดน บาย เดอะ เบย์ ชั้นดาดฟ้ามีสระว่ายน้ำแบบพาโนรามา
ทบทวนความจำกันได้ตามลิงก์นี้ Singapore 2012
มาทริปที่สองราวกับตกสวรรค์ พักที่ เดอะ เบย์ โฮเต็ล ซึ่งมองไม่เห็นอ่าวอะไรทั้งสิ้น มองออกไปนอกหน้าต่างระดับสายตาชั้น 6 เห็นแต่ตึกกับสะพานลอย พอลดสายตาต่ำลงไปที่ภาคพื้นดิน เอ๊ะ นั่นอะไร หน้าตาละม้ายคล้ายสุสาน ส่องดูดีๆ ชัดเลย หลุมศพเต็มไปหมด โชคดีตอนกลางคืนไม่มีใครแวะมาเยี่ยม
ห้องพักก็เล็กมาก เข้าไปเจอเตียงเลย ห้องน้ำ-ห้องส้วมแบบพอดีตัว อ่างล้างหน้าอยู่ด้านนอก ไม่มีตู้เสื้อผ้า แต่มีข้อดีคือ ฟรีมินิบาร์ เติมให้ใหม่ทุกวัน
ไปถึงวันแรกยังไม่ต้องทำอะไร เพื่อนบอกจะมาหา แต่ก็ไม่ได้มา เลยไปเดินห้างที่อยู่ฝั่งตรงข้ามโรงแรม แล้วก็หาอะไรกิน จบไปหนึ่งวัน
วันที่สองได้เวลาเริ่มงาน ก็อยู่ในห้องประชุมทั้งวัน ตอนเย็นได้ไปเมอร์ไลออนพาร์ค ถ่ายรูปนิดหน่อยแล้วก็ไปกินข้าว
วันสุดท้ายเข้าห้องประชุมอีกทั้งวัน พอเสร็จก็ต้องรีบไปสนามบิน ต้องลากกระเป๋าเดินหาแท็กซี่เอง สุดแสนจะลำเค็ญ
มาถึงสุวรรณภูมิ กัปตันประกาศว่าการจราจรหนาแน่น เลยต้องจอดเครื่องไกลหน่อย แล้วรอรถมารับ ชีวิตรันทดจนนาทีสุดท้ายจริงๆ
เกือบลืม ขาไป กัปตันประกาศเป็นภาษาเยอรมันด้วย เก๋ไก๋มาก นี่ฉันไปสิงคโปร์หรือยุโรปกันเนี่ย
หมดเรื่องเล่าแล้ว มาดูรูปกันดีกว่า
นี่คือห้องพัก ยืนชิดหน้าต่างแล้วถ่าย
มุมนี้ถ่ายจากประตูห้อง ขวามือคือห้องน้ำ ประตูบานเลื่อน ที่พาดผ้าอยู่ด้านนอก ถ้าพักสองคนจะทำยังไง และถ้าพักสองคนจริงๆ คงเดินชนกันตาย
อ่างล้างหน้า
ที่แขวนเสื้อผ้าอยู่รวมกับที่วางกาต้มน้ำร้อน ต้มน้ำไปด้วย อบไอน้ำให้เสื้อผ้าไปด้วย มีประโยชน์จริงๆ
สุสานข้างโรงแรม
สำรวจห้องพักเสร็จแล้วก็ได้เวลาออกไปสำรวจโลกภายนอก
รูปที่เหลืออีกเล็กน้อยโปรดติดตามผ่านเฟซบุ๊คนะท่านผู้ชม
No comments:
Post a Comment